ข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้ ประกอบด้วยรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของ บริษัท ซีพีแอล อินเตอร์-โลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งประกอบรวมกันเป็นสัญญาการรับขนที่ใช้บังคับกับการขนส่งพัสดุหรือสินค้าของลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลง ดัดแปลง แก้ไข และ/หรือเพิ่มเติมข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า
1. คำจำกัดความ
คำศัพท์ต่อไปนี้จะมีความหมายตามที่กำหนดไว้ด้านล่างนี้ เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่นหรือบริบทเป็นอย่างอื่น
1.1 “บริษัท” หมายถึง บริษัท ซีพีแอล อินเตอร์-โลจิสติกส์ จำกัด
1.2 “ลูกค้า” หมายถึง ผู้ส่ง ผู้รับ ผู้รวบรวมพัสดุ ผู้นำเข้า และ/หรือผู้ส่งออกพัสดุหรือสินค้า (แล้วแต่กรณี) ซึ่งเป็นผู้ขอใช้บริการกับบริษัท ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ตาม รวมตลอดถึงพนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ผู้มีส่วนได้เสีย และ/หรือบริวารของบุคคลดังกล่าวด้วย
1.3 “ผู้ส่ง” หมายถึง ผู้ส่ง ผู้ฝากส่ง ผู้ส่งออก ผู้รวบรวมพัสดุ บุคคลที่มีชื่อปรากฏในใบตราส่งว่าเป็นผู้ส่งพัสดุหรือสินค้า
1.4 “ผู้รับ” หมายถึง ผู้รับ ผู้นำเข้า บุคคลที่มีชื่อปรากฏในใบตราส่งว่าเป็นผู้รับพัสดุหรือสินค้า
1.5 “ผู้นำเข้า” หมายถึง ผู้ที่นำพัสดุหรือสินค้าเข้ามาในประเทศไทย
1.6 “ผู้ส่งออก” หมายถึง ผู้ที่ส่งพัสดุหรือสินค้าออกไปต่างประเทศ
1.7 “ผู้รวบรวมพัสดุ” หมายถึง ผู้รับจ้างอิสระและไม่มีความเกี่ยวข้องใดกับบริษัท ซึ่งมีรายได้จากการรวบรวมหีบห่อพัสดุหลายชิ้นจากเจ้าของพัสดุหลายรายแล้วนำมาฝากส่งกับบริษัท
1.8 “ผู้ประกอบการรายอื่น” หมายถึง ผู้ประกอบกิจการขนส่งรายอื่นที่บริษัทระบุให้เป็นผู้จัดส่งพัสดุหรือสินค้าไปยังสถานที่ปลายทางให้กับตนเอง หรือ ที่บริษัทว่าจ้างหรือมอบหมายให้จัดส่งพัสดุหรือสินค้าไปยังสถานที่ปลายทางให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางบก ทางเรือ และ/หรือทางอากาศก็ตาม อาทิ สายการบิน สายเรือ เป็นต้น
1.9 “ตัวแทนขนส่ง” หมายถึง ผู้รับจ้างอิสระท้องถิ่นและไม่มีความเกี่ยวข้องใดกับบริษัท ซึ่งบริษัทว่าจ้างหรือมอบหมายให้จัดส่งพัสดุหรือสินค้าไปยังสถานที่ปลายทางให้กับผู้รับโดยการขนส่งทางบก อาทิ เฟดเด็กซ์ (FedEx), ดีเอชแอล (DHL), ยูพีเอส (UPS) เป็นต้น
1.10 “การจัดส่ง” หมายถึง การจัดส่ง การขนส่ง และ/หรือการดำเนินการใดๆ เพื่อทำให้พัสดุหรือสินค้าส่งไปถึงผู้รับ ณ สถานที่ปลายทางที่กำหนดไว้
1.11 “พัสดุ” หมายถึง สิ่งของที่บรรจุหีบห่อซึ่งลูกค้าได้ว่าจ้างหรือมอบหมายให้บริษัทจัดส่งไปยังสถานที่ปลายทาง ไม่ว่าจะถูกขนส่งลำเลียงด้วยวิธีการใดก็ตาม
1.12 “สินค้า” หมายถึง สินค้าที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันซึ่งลูกค้าได้ว่าจ้างหรือมอบหมายให้บริษัทจัดส่งไปยังสถานที่ปลายทาง ไม่ว่าจะบรรจุอยู่ในหีบห่อหรือภาชนะบรรจุที่ใช้สำหรับการขนส่งรูปแบบใด ไม่ว่าจะถูกขนส่งลำเลียงด้วยวิธีการใดก็ตาม
1.13 “สถานที่ทำการ” หมายถึง สถานที่ทำการของบริษัทภายใต้ชื่อทางการค้า “บริษัท ซีพีแอล อินเตอร์-โลจิสติกส์ จำกัด” ที่เปิดให้บริการรับฝากส่ง ขนส่ง นำเข้า และส่งออกพัสดุหรือสินค้าไปยังสถานที่ปลายทางตามรายละเอียดที่ลูกค้ากำหนดไว้
1.14 “สถานที่ปลายทาง” หมายถึง สถานที่ที่ลูกค้าประสงค์จะให้จัดส่งพัสดุหรือสินค้าไปถึงหรือมาถึง
1.15 “ประเทศต้นทาง” หมายถึง ประเทศที่เป็นจุดเริ่มต้นของการจัดส่งพัสดุหรือสินค้า
1.16 “ประเทศปลายทาง” หมายถึง ประเทศของสถานที่ปลายทางที่พัสดุหรือสินค้าจะถูกจัดส่งไปถึงหรือมาถึง
1.17 “ประเทศ” หมายถึง ประเทศไทย
2. การยอมรับ
ลูกค้าได้อ่านและเข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไขทุกข้อโดยตลอดแล้วและตกลงยอมรับให้ข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้มีผลผูกพันตามกฎหมายกับตนเองทุกประการ รวมตลอดถึงฉบับแก้ไขเพิ่มเติมที่จะจัดทำขึ้นหรืออาจจะจัดทำขึ้นในอนาคตด้วย ไม่ว่าลูกค้าจะได้ลงนามยอมรับเป็นลายลักษณ์อักษรไว้หรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ ลูกค้าขอรับรองว่าตนเองจะปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้อย่างเคร่งครัด
3. การให้บริการ
3.1 การให้บริการ
3.1.1 บริการขนส่งไปต่างประเทศ
ซีพีแอลให้บริการขนส่งเอกสาร พัสดุขนาดเล็ก และสินค้าขนาดใหญ่ไปยังหลากหลายประเทศทั่วโลก โดยให้บริการตั้งแต่รับสินค้าจากลูกค้าจนถึงผู้รับปลายทางในต่างประเทศ ผ่านบริการขนส่งทางอากาศแบบถึงหน้าประตูบ้าน (Air Courier - Door to Door) และ/หรือบริการขนส่งทางอากาศแบบถึงท่าอากาศยาน (Air Cargo - Door to Port) โดยมีความสะดวก รวดเร็ว และเป็นไปตามมาตรฐานสากล อีกทั้งลูกค้าสามารถติดตามสถานะการจัดส่งสินค้า ผ่านทางเว็บไซต์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
3.2 วิธีการจัดส่ง
3.2.1 การขนส่งทางอากาศแบบถึงหน้าประตูบ้าน (Air Courier - Door to Door)
ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการขนส่งทางอากาศแบบถึงหน้าประตูบ้าน (Air Courier - Door to Door) ได้โดยดำเนินการผ่านทางหน้าเว็บไซต์ www.shiparrive.com โดยบริษัทจะดำเนินการรับพัสดุหรือสินค้าจากลูกค้า และจัดส่งไปยังสถานที่ปลายทางตามรายละเอียดที่ลูกค้ากำหนดไว้ โดยอาศัยตัวแทนขนส่ง (เช่น FedEx) เป็นผู้ดำเนินการจัดส่งปลายทาง ทั้งนี้ การจัดส่งจะเป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการของตัวแทนขนส่งนั้นด้วย
3.3 ผู้จัดส่ง
3.3.1 ดำเนินการโดยบริษัท : บริษัท ซีพีแอล อินเตอร์-โลจิสติกส์ จำกัด
(1) กรณีที่ลูกค้าระบุความประสงค์ให้บริษัทเป็นผู้จัดส่ง บริษัทจะทำการจัดส่งพัสดุหรือสินค้าไปยังสถานที่ปลายทางตามรายละเอียดที่ลูกค้ากำหนดไว้
(2) บริษัทสามารถว่าจ้างหรือมอบหมายผู้ประกอบการรายอื่นและ/หรือตัวแทนขนส่งให้มาดำเนินการจัดส่งพัสดุหรือสินค้าให้กับลูกค้าด้วยก็ได้ ไม่ว่าจะภายในประเทศหรือต่างประเทศ ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วนก็ตาม ทั้งนี้ ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทแต่เพียงฝ่ายเดียว
(3) บริษัทมีสิทธิใช้ดุลยพินิจในการกำหนดเส้นทางและวิธีการขนส่งพัสดุหรือสินค้าที่เหมาะสมเองแต่เพียงฝ่ายเดียว
3.3.2 ดำเนินการโดยผู้ประกอบการรายอื่น :
(1) กรณีที่ลูกค้าระบุความประสงค์ให้ผู้ประกอบการรายอื่นเป็นผู้จัดส่ง บริษัทจะทำการว่าจ้างหรือมอบหมายให้ผู้ประกอบการรายนั้นทำการจัดส่งพัสดุหรือสินค้าไปยังสถานที่ปลายทางตามรายละเอียดที่ลูกค้ากำหนดไว้ให้
(2) ภายหลังจากที่บริษัทได้ส่งมอบพัสดุหรือสินค้าให้กับผู้ประกอบการรายอื่นแล้ว บรรดาหน้าที่ ความรับผิดชอบ และความรับผิดทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งพัสดุหรือสินค้าย่อมตกเป็นของผู้ประกอบการรายนั้นแต่เพียงฝ่ายเดียว
(3) บริษัทสามารถทำการว่าจ้างผู้ประกอบการรายอื่นและ/หรือตัวแทนขนส่งให้มาดำเนินการจัดส่งพัสดุหรือสินค้าร่วมกับผู้ประกอบการรายที่ลูกค้าคัดเลือกไว้ด้วยก็ได้ เพื่อทำให้การจัดส่งพัสดุหรือสินค้าเป็นเสร็จลุล่วง
3.4 ระยะเวลาการจัดส่ง
ลูกค้ารับทราบและเข้าใจเป็นอย่างดีว่า ระยะเวลาการจัดส่งพัสดุหรือสินค้านั้นไม่นับรวมวันหยุดสุดสัปดาห์ วันหยุดราชการ วันหยุดธนาคาร วันหยุดนักขัตฤกษ์ และอาจเกิดเปลี่ยนแปลงหรือเลื่อนออกไปได้เนื่องจากการประกาศวันหยุดทำการของแต่ละประเทศ ความล่าช้าที่เกิดจากการปฏิบัติการเพื่อรักษาความปลอดภัย ความล่าช้าที่เกิดจากศุลกากร ความล่าช้าที่เกิดจากหน่วยงานที่กำกับดูแล และ/หรือเหตุการณ์อื่นใดที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท
4. ขอบเขตการให้บริการ
4.1 การส่งออก
4.1.1 การขนส่งทางอากาศโดยเครื่องบินแบบส่งถึงหน้าประตูบ้าน:
(1) รับพัสดุหรือสินค้าจากลูกค้าที่จัดส่งมาที่โกดังหรือสถานที่ทำการของบริษัท
(2) ตรวจสอบสภาพพัสดุหรือสินค้าเบื้องต้น
(3) บรรจุพัสดุหรือสินค้าลงในภาชนะบรรจุที่ใช้กับการขนส่งทางอากาศ (ถ้าต้องการ)
(4) ผู้ประกอบการรายอื่นจัดส่งเข้ารับพัสดุหรือสินค้าที่โกดังของบริษัท
(5) ดำเนินพิธีการทางศุลกากร (ถ้าต้องการ)
(6) ตัวแทนขนส่งในต่างประเทศจัดส่งพัสดุหรือสินค้าไปยังสถานที่ปลายทางให้กับผู้รับ
4.2 การบรรจุพัสดุหรือสินค้า
บรรจุพัสดุหรือสินค้าลงในบรรจุภัณฑ์ให้กับลูกค้า โดยมีระยะเวลาดำเนินการอย่างน้อย 4 (สี่) วันทำการ หลังจากวันที่ได้รับพัสดุหรือสินค้าชิ้นสุดท้าย
2. ข้อสงวนสิทธิการให้บริการ
2.1 บริษัทขอสงวนสิทธิไม่ให้บริการจัดส่งพัสดุหรือสินค้า และ/หรือบริการอื่นใดกับลูกค้าในกรณีดังต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเป็นการชั่วคราวหรือถาวร ทั้งหมดหรือบางส่วน ทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม
2.1.1 พัสดุหรือสินค้าที่จะให้จัดส่งนั้นเป็นสิ่งของต้องห้าม หรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะเป็นสิ่งของประเภทดังกล่าว
2.1.2 พัสดุหรือสินค้าที่จะให้จัดส่งนั้นมีลักษณะเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย จิตใจ ชีวิต ทรัพย์สินของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และ/หรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะเป็นสิ่งของที่มีลักษณะดังกล่าว
2.1.3 พัสดุหรือสินค้าที่จะให้จัดส่งนั้นมีลักษณะที่บริษัทไม่สามารถหรืออาจจะไม่สามารถขนส่งไปยังสถานที่ปลายทางได้
2.1.4 พัสดุหรือสินค้าที่จะให้จัดส่งนั้นถูกรวบรวมหรือจัดทำขึ้นในต่างประเทศ แต่จะให้ฝากนำส่งในประเทศไทยเพื่อนำจ่ายในประเทศไทยหรือส่งไปนำจ่ายต่อในต่างประเทศ
2.1.5 พัสดุหรือสินค้าที่จะให้จัดนั้นส่งถูกระงับการจัดส่ง ยึด อายัด และ/หรือตรวจสอบตามคำสั่งศาลหรือหน่วยงานที่กำกับดูแล
2.1.6 พัสดุหรือสินค้าที่จะให้จัดส่งนั้นเป็นประเภทหรือมีชนิดเดียวกันกับที่มีกฎหมาย นโยบาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และ/หรือคำสั่งของหน่วยงานทางราชการที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะมีผลบังคับใช้แล้วหรือในอนาคตก็ตาม ออกมาควบคุมหรือไม่อนุญาตให้บุคคลใดครอบครอง ขนส่ง นำเข้า ส่งออก และ/หรือดำเนินการใดๆ
2.2 บริษัทขอสงวนสิทธิไม่ทำการตรวจสอบหรือทดสอบคุณภาพ ประสิทธิภาพ ความแข็งแรง และ/หรือความทนทานของบรรจุภัณฑ์ ภาชนะบรรจุ การบรรจุ และ/หรือวิธีการบรรจุพัสดุหรือสินค้าให้กับลูกค้า ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม
2.3 บริษัทขอสงวนสิทธิระงับการให้บริการ ณ เวลาหนึ่งเวลาใด เพื่อวัตถุประสงค์ของการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ตาม
2.4 บริษัทขอสงวนสิทธิระงับการให้บริการ ณ เวลาหนึ่งเวลาใด เพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษาความปลอดภัยด้านสุขภาพอนามัย ชีวิต และ/หรือทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ตาม
2.5 บริษัทขอสงวนสิทธิไม่ให้บริการกับผู้เยาว์ซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 (ยี่สิบ) ปีบริบูรณ์ เว้นแต่ผู้เยาว์จะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้แทนโดยชอบธรรมที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์นั้นเสียก่อน
3. สิ่งของที่ไม่รับจัดส่ง
ลูกค้ารับทราบและเข้าใจเป็นอย่างดีว่า บริษัทไม่รับจัดส่งและ/หรือให้บริการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับสิ่งของตามรายการดังต่อไปนี้
3.1 สิ่งของต้องห้าม
3.1.1 สิ่งเสพติดให้โทษหรือวัตถุซึ่งออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท กัญชา กัญชง รวมตลอดถึงวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ หรือสิ่งของอื่นๆ สำหรับผลิตหรือใช้กับสิ่งดังกล่าว
3.1.2 สิ่งของผิดกฎหมายทุกชนิด รวมตลอดถึงวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ หรือสิ่งของอื่นๆ สำหรับผลิตหรือใช้กับสิ่งของผิดกฎหมาย
3.1.3 อาวุธทุกชนิด รวมตลอดถึงกระสุน ชิ้นส่วน อะไหล่ ส่วนประกอบ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ฝึกซ้อม หรือสิ่งของอื่นๆ ที่เกี่ยวกับผลิตหรือใช้กับอาวุธ
3.1.4 ระเบิด วัตถุระเบิด เชื้อเพลิง วัตถุไวไฟ สารเคมีติดไฟ ของเหลวไวไฟ ดอกไม้ไฟ พลุ แบตเตอรี่
3.1.5 สินค้าหรือสิ่งของที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
3.1.6 สิ่งมีชีวิตทุกชนิด
3.1.7 อวัยวะ ชิ้นส่วน หรือเศษซากของร่างกายมนุษย์
3.1.8 อวัยวะ ชิ้นส่วน หรือเศษซากของสัตว์ที่ตายแล้ว
3.1.9 พืช พันธุ์พืช เมล็ดพันธุ์พืช เชื้อพันธุ์พืช หรือส่วนต่างๆ ของพืชที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เพาะปลูก ครอบครอง นำเข้า หรือส่งออก
3.1.10 วัตถุ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ สิ่งของ สื่อ หรือเอกสารที่ผิดศีลธรรม ลามกอนาจาร ยุยง ปลุกปั่น ข่มขู่ สร้างความสับสนวุ่นวาย หรือสร้างความงมงาย
3.1.11 เงินสดหรือสิ่งเทียบเท่าเงินสด อาทิ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรกดเงินสด พันธบัตร ตราสาร ใบหุ้น เป็นต้น
3.1.12 ทองคำ เหรียญกษาปณ์ อัญมณี ของสะสม วัตถุโบราณ งานศิลป์ หรือสิ่งของมีค่าอื่นทุกชนิด
3.1.13 เอกสารส่วนบุคคลที่ออกโดยหน่วยงานราชการทุกประเภท อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบขับขี่ ใบอนุญาตต่างๆ เป็นต้น
3.1.14 สารชีวภาพที่เน่าเปื่อยได้และอาจแพร่เชื้อได้
3.1.15 สารกัมมันตรังสี
3.1.16 ขยะอันตรายทุกชนิด อาทิ ขยะทางการแพทย์ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ขยะอินทรีย์ ขยะอุตสาหกรรม เป็นต้น
3.1.17 ยาสูบทุกชนิด ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บุหรี่ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
3.1.18 ของสดที่เน่าเสียง่าย รวมถึงอาหาร เครื่องดื่ม หรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิหรือสภาพแวดล้อม
3.1.19 สิ่งของที่เปียกหรือส่งกลิ่นเหม็นทุกชนิด
3.1.20 สิ่งของต้องห้ามรายการอื่นที่กฎหมายกำหนดไว้ว่า ห้ามครอบครอง ขนส่ง นำเข้า หรือส่งออก ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม
3.2 สิ่งของที่ไม่เหมาะแก่การขนส่ง
สิ่งของที่มีลักษณะเปราะบางและ/หรือแตกหักง่าย
สิ่งของที่ทำจากแก้ว กระจก หรือเซรามิค
สิ่งของที่ทำจากวัสดุที่เสียรูปทรงง่ายหรือคดงอง่าย
บรรจุภัณฑ์และ/หรือวัสดุอื่นๆ มีลักษณะหรือสภาพไม่เหมาะสมกับสิ่งของที่จะขนส่ง
บรรจุภัณฑ์และ/หรือวัสดุอื่นๆ มีลักษณะหรือสภาพไม่เหมาะสมแก่การขนส่ง
4. พัสดุหรือสินค้า
ลูกค้าตกลงจะปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขดังต่อไปนี้
4.1 การแจ้งข้อมูล
4.1.1 แจ้งข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้าและผู้รับให้ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน และตรงกับความเป็นจริง พร้อมระบุสถานที่ตั้งอย่างละเอียด อาทิ บ้านเลขที่ ชั้นที่ ห้องที่ อาคาร ตึก ตรอก ซอย ถนน แขวง เขต มณฑล ประเทศ รัฐ รหัสไปรษณีย์ เป็นต้น
4.1.2 แจ้งข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับพัสดุหรือสินค้าให้ถูกต้อง ครบถ้วน และตรงกับความเป็นจริง
4.1.3 ตรวจสอบข้อมูลความถูกต้องทั้งหมดก่อนที่จะฝากส่งพัสดุหรือสินค้ากับบริษัท
4.1.4 แจ้งข้อมูลรายละเอียดและ/หรือนำส่งเอกสารเพิ่มเติมตามที่ได้รับแจ้งจากบริษัทและ/หรือหน่วยงานราชการที่กำกับดูแล
4.2 การเปลี่ยนแปลงข้อมูล
4.2.1 แจ้งให้บริษัททราบทันที หากข้อความส่วนใดส่วนหนึ่งตามที่ได้แจ้งไว้มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ถูกต้อง และ/หรือไม่ครบถ้วน
4.2.2 ชำระเงินคิดค่าบริการเปลี่ยนแปลงข้อมูล USD 5-20 กรณีที่มีการขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลภายหลังจากที่บริษัทจัดส่งพัสดุออกจากโกดังแล้ว
4.3 บรรจุภัณฑ์และการทำเครื่องหมาย
4.3.1 จัดเตรียมบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับการขนส่งพัสดุหรือสินค้า
4.3.2 ห่อหุ้มส่วนที่แหลมคม บุบสลายง่าย หลุดออกจากกันง่าย และ/หรือแตกหักง่ายของพัสดุหรือสินค้าด้วยอุปกรณ์กันกระแทกเพื่อป้องกันอันตรายและความเสียหาย
4.3.3 บรรจุสิ่งของให้เหลือพื้นที่ด้านบน ด้านล่าง และด้านข้างเพียงพอสำหรับการกันกระแทก พร้อมใส่อุปกรณ์กันกระแทกเพื่อป้องกันความเสียหาย
4.3.4 ทำเครื่องหมายและ/หรือปิดฉลากแสดงข้อควรระวังเกี่ยวกับพัสดุหรือสินค้าให้ชัดเจน
4.3.5 ปิดผนึกหีบห่อให้มีความมั่นคงแข็งแรงเพื่อป้องกันบริเวณด้านนอกของพัสดุหรือสินค้าถูกเปิดออก ฉีกขาด และ/หรือได้รับความเสียหายในระหว่างการขนส่ง
4.3.6 ปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการบรรจุหีบห่อ การทำเครื่องหมาย และการปิดฉลาก
5. ผู้รวบรวมพัสดุ
5.1 ถึงแม้ว่าผู้รวบรวมพัสดุจะไม่ได้เป็นเจ้าของพัสดุสิ่งของที่รวบรวมมาจากเจ้าของพัสดุหลายรายก็ตาม (“เจ้าของพัสดุ”) แต่ก็ย่อมถือว่า ผู้รวบรวมพัสดุนั้นเป็นลูกค้าของบริษัทซึ่งจะต้องปฏิบัติตามและผูกพันตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการทุกฉบับ รวมตลอดถึงข้อกำหนดทางศุลกากรและกฎหมายอื่นๆ ที่ใช้บังคับกับพัสดุที่ส่งมอบเพื่อการขนส่งระหว่างประเทศด้วยเช่นกัน
5.2 เนื่องจากผู้รวบรวมพัสดุไม่ใช่ตัวแทนของบริษัท บริษัทจึงไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการกระทำ ความผิดพลาด และ/หรือความบกพร่องของผู้รวบรวมพัสดุ ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม
5.3 เนื่องจากเจ้าของพัสดุที่ฝากส่งพัสดุไว้กับผู้รวบรวมพัสดุไม่ใช่ลูกค้าของบริษัท บริษัทจึงไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหาย ความสูญหาย ความล่าช้า ความผิดพลาด และ/หรือความบกพร่องใดๆ ที่เกิดขึ้นกับเจ้าของพัสดุนั้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม
5.4 ผู้รวบรวมพัสดุสามารถยื่นข้อเรียกร้องเพื่อขอรับเงินค่าบริการคืนหรือเครดิตค่าขนส่งจากบริษัทภายใต้นโยบายการคืนเงินได้ ทั้งนี้ เจ้าของพัสดุและ/หรือผู้รับไม่มีสิทธิขอรับเงินคืนหรือเครดิตค่าขนส่งจากบริษัทได้ ไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม
5.5 ผู้รวบรวมพัสดุจะต้องจัดทำบันทึกที่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของพัสดุแต่ละรายไว้ด้วย อาทิ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ เลขประจำตัวลูกค้า เป็นต้น
6. การตรวจสอบพัสดุหรือสินค้า
ลูกค้ารับทราบและเข้าใจเป็นอย่างดีว่า บริษัทมีสิทธิตรวจคัดกรองพัสดุหรือสินค้า ณ เวลาหนึ่งเวลาก็ได้เพื่อรักษาความปลอดภัยและ/หรือให้เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการของบริษัท โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้าก่อน ทั้งนี้ บริษัทจะทำการสุ่มตรวจโดยการเปิดบรรจุภัณฑ์ออกและตรวจสอบอย่างละเอียดเพียงบางชิ้นอย่างระมัดระวังและเท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยบริษัทไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหาย ค่าพัสดุหรือสินค้า และ/หรือค่าใช้จ่ายอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการดังกล่าวทั้งสิ้น
7. การจัดการกับพัสดุหรือสินค้า
7.1 กรณีที่นำส่งไม่ได้
กรณีดังต่อไปนี้ ถือว่า “พัสดุหรือสินค้าที่นำส่งไม่ได้”
7.1.1 กรณีที่บริษัทได้ใช้ความพยามในการจัดส่งพัสดุหรือสินค้าให้กับลูกค้าอย่างน้อย 2 (สอง) ครั้งแล้ว แต่ไม่มีผู้รับพัสดุหรือสินค้านั้น
7.1.2 กรณีที่ผู้รับปฏิเสธที่จะรับพัสดุหรือสินค้า
7.1.3 กรณีที่พัสดุหรือสินค้าไม่สามารถผ่านพิธีการทางศุลกากรได้
7.1.4 กรณีที่พัสดุหรือสินค้าเป็นสิ่งของต้องห้าม
7.1.5 กรณีที่พัสดุหรือสินค้าอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือความล่าช้าแก่พัสดุหรือสินค้าอื่น
7.1.6 กรณีที่พัสดุหรือสินค้าอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพ ชีวิต และ/หรือทรัพย์สิน
7.1.7 กรณีที่พัสดุหรือสินค้าอยู่ในลักษณะหรือสภาพที่ไม่สามารถขนส่งได้
7.1.8 กรณีอื่นๆ ที่ทำให้ไม่สามารถจัดส่งพัสดุหรือสินค้าไปยังสถานที่ปลายทางได้
7.2 การส่งคืน
บริษัทจะทำการจัดส่งพัสดุหรือสินค้าคืนให้กับลูกค้า โดยลูกค้าจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบชำระเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเองแต่เพียงผู้เดียว ในกรณีดังต่อไปนี้
7.2.1 กรณีที่เป็นพัสดุหรือสินค้าที่นำส่งไม่ได้ โดยไม่ใช่ความผิดของบริษัท
7.2.2 กรณีที่ลูกค้าแจ้งความประสงค์ขอให้ระงับการบริการและนำส่งพัสดุหรือสินค้าคืน
7.2.3 กรณีที่พบว่าพัสดุหรือสินค้าเป็นของต้องห้าม แต่ไม่ต้องแจ้งหน่วยงานที่กำกับดูแล
7.2.4 กรณีอื่นตามที่บริษัทเห็นสมควร
7.3 การเก็บรักษา
7.3.1 ในระหว่างที่ยังไม่สามารถจัดส่งพัสดุหรือสินค้าไปให้ผู้รับหรือส่งคืนกลับไปให้ลูกค้า บริษัทจะให้บริการเก็บรักษาพัสดุหรือสินค้าดังกล่าวนั้นไว้ในโกดังของบริษัทชั่วคราวเป็นระยะเวลา 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่สินค้าถึงโกดัง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
7.3.2 ในกรณีที่เกินกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น แต่บริษัทยังไม่สามารถจัดส่งพัสดุหรือสินค้าได้ โดยไม่ใช่ความผิดของบริษัท หากลูกค้ามีความประสงค์จะเช่าโกดังและ/หรือดำเนินการอื่นใด เพื่อเก็บรักษาพัสดุหรือสินค้านั้นต่อไป ลูกค้าจะต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบชำระเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเอง
7.4 การทำลาย
7.4.1 หากเกิดกรณีดังต่อไปนี้ ลูกค้าตกลงยอมรับให้บริษัทใช้ดุลยพินิจในการทำลายพัสดุหรือสินค้าได้เองทันที โดยไม่ต้องบอกกล่าวแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า
(1) กรณีที่มีความจำเป็นจะต้องทำลายพัสดุหรือสินค้าโดยเร็วเพื่อความปลอดภัย
(2) กรณีที่ได้รับคำสั่งจากหน่วยงานที่กำกับดูแลให้ทำลายพัสดุหรือสินค้า
(3) กรณีที่ไม่สามารถติดต่อลูกค้าได้เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 90 วัน
7.4.2 หากเกิดกรณีดังต่อไปนี้ และลูกค้าได้ความประสงค์ขอให้ทำลายพัสดุหรือสินค้า บริษัทสามารถดำเนินการดังกล่าวได้ทันที
(1) กรณีที่ไม่สามารถจัดส่งพัสดุหรือสินค้าให้กับผู้รับได้ และลูกค้าไม่ต้องการให้จัดส่งคืน
(2) กรณีที่ไม่สามารถส่งพัสดุหรือสินค้าคืนให้กับลูกค้าได้
(3) กรณีที่เก็บรักษาพัสดุหรือสินค้าไว้อาจทำให้เกิดภาระค่าใช้จ่ายสูง
7.5 การจัดการด้วยวิธีอื่น
ลูกค้าตกลงยินยอมให้บริษัทระงับการให้บริการ ตรวจสอบ ตรวจพิสูจน์ ยึดหรืออายัด แจ้งหน่วยงานราชการหรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง ส่งมอบให้กับพนักงานเจ้าหน้าที่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย เรียกร้องค่าเสียหาย และ/หรือจัดการอย่างใดอย่างหนึ่งกับพัสดุหรือสินค้าของลูกค้าได้ โดยบริษัทไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น หากเกิดกรณีดังต่อไปนี้
7.5.1 พัสดุหรือสินค้าของลูกค้าเป็นสิ่งของต้องห้าม
7.5.2 พัสดุหรือสิ่งของของลูกค้าเกิดการเปลี่ยนสภาพ เสียสภาพ เน่าเสีย ส่งกลิ่นเน่าเหม็น รั่วไหล เปรอะเปื้อน เป็นอันตราย และ/หรืออาจจะสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับพัสดุอื่น บุคคลอื่น พนักงานของบริษัท และ/หรือทรัพย์สินของบริษัท
7.5.3 พัสดุหรือสินค้าของลูกค้าเป็นวัตถุมีคมซึ่งไม่มีเครื่องหุ้มห่อป้องกันเพียงพอ เป็นสิ่งของซึ่งโดยธรรมชาติหรือโดยวิธีการหุ้มห่อเป็นอันตราย และ/หรืออาจจะสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับพัสดุหรือสินค้าอื่น บุคคลอื่น พนักงานของบริษัท และ/หรือทรัพย์สินของบริษัท
7.5.4 พัสดุหรือสินค้าของลูกค้าเป็นวัตถุ สิ่งของ เอกสาร และ/หรือสื่อสิ่งพิมพ์ที่ถูกรวบรวมหรือจัดทำขึ้นในต่างประเทศ แต่จะให้ฝากนำส่งในประเทศไทยเพื่อนำจ่ายในประเทศไทยและ/หรือส่งไปนำจ่ายในต่างประเทศ
7.6 กรรมสิทธิ์ตกเป็นของบริษัท
ในเกิดกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ลูกค้าตกลงยินยอมให้กรรมสิทธิ์ในพัสดุหรือสินค้าตกเป็นของบริษัทแต่เพียงผู้เดียวทันที โดยไม่มีข้อโต้แย้งแต่อย่างใด
กรณีที่ลูกค้าไม่มีความประสงค์จะให้เก็บรักษาพัสดุหรือสินค้าต่อไป
กรณีที่ลูกค้าไม่มีความประสงค์จะให้จัดส่งหรือรับพัสดุหรือสินค้าคืน
กรณีที่บริษัทไม่สามารถติดต่อลูกค้าได้เป็นระยะเวลาเกิน 90 (เก้าสิบ) วัน นับแต่วันที่ สินค้าถึงโกดัง
กรณีที่บริษัทไม่สามารถติดต่อผู้รับได้เป็นระยะเวลาเกิน 90 วัน นับแต่วันที่ สินค้าถึงโกดังและลูกค้าไม่ประสงค์จะรับพัสดุหรือสินค้าคืน
กรณีที่บริษัทได้จ่ายเงินค่าพัสดุหรือสินค้าให้กับลูกค้าตามจำนวนที่ตกลงกันไว้แล้ว
8. การดำเนินพิธีการทางศุลกากร
8.1 ลูกค้ารับทราบและเข้าใจเป็นอย่างดีว่า พัสดุหรือสินค้าทุกรายการที่ผ่านเขตแดนระหว่างประเทศจะต้องดำเนินพิธีการทางศุลกากรตามที่กฎหมายกำหนด โดยระยะเวลาที่ใช้ในการนำเข้าและส่งออกพัสดุหรือสินค้านั้นจะขึ้นอยู่กับการตรวจสอบและการดำเนินงานต่างๆ ของพนักงานเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่กำกับดูแลด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจการควบคุมของบริษัทและอาจส่งผลทำให้กำหนดเวลาในการจัดส่งพัสดุไปยังสถานที่ปลายทางเปลี่ยนแปลงได้
8.2 บริษัทจะกระทำการในฐานะตัวแทนของลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์ในการนำพัสดุหรือสินค้าผ่านพิธีการศุลกากรตามที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ในกรณีที่ประสงค์จะให้บริษัทกระทำการแทนผู้รับด้วย บริษัทตกลงจะจัดเตรียมเอกสารและ/หรือดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้รับมอบหมายหรือมอบอำนาจให้กับบริษัทอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
8.3 กรณีที่ได้รับมอบหมายจากลูกค้า บริษัทจะทำการจัดเตรียมเอกสาร ยื่นเอกสาร รายงานข้อมูล ตรวจสอบพัสดุหรือสินค้า ชำระค่าธรรมเนียมและภาษีอากรให้กับศุลกากรหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลอื่น และ/หรือดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับข้องกับการดำเนินพิธีการทางศุลกากรจนเสร็จการ
8.4 หน้าที่และความรับผิดชอบของลูกค้า มีดังนี้
8.4.1 ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพัสดุหรือสินค้าเป็นไปตามข้อกำหนดที่ใช้บังคับทางศุลกากรทั้งหมด
8.4.2 ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพัสดุหรือสินค้าที่ขนส่งระหว่างประเทศเป็นที่ยอมรับให้นำเข้าไปในประเทศปลายทางได้ และเป็นไปตามข้อกำหนดในการออกใบอนุญาตทั้งหมดที่เกี่ยวข้องและได้รับใบอนุญาตแล้ว โดยลูกค้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
8.4.3 จัดเตรียมเอกสาร ใบอนุญาต และข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องและจำเป็นสำหรับการดำเนินพิธีการทางศุลกากร
8.4.4 ให้การรับรองและรับประกันว่าข้อความและข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับพัสดุหรือสินค้าเป็นความจริง ถูกต้อง และครบถ้วนทุกประการ
8.4.5 ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อขอรับการตรวจผ่านจากหน่วยงานที่กำกับดูแลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในประเทศปลายทางก่อนการนำส่งพัสดุหรือสินค้าให้กับผู้รับ
8.4.6 สำหรับพัสดุหรือสินค้าที่ต้องตรวจผ่านทางศุลกากรโดยผู้รับ บริษัทจะนำส่งเอกสารทางศุลกากรให้แก่ผู้รับตามที่ลูกค้าได้แจ้งไว้
8.5 หากพัสดุถูกระงับไว้โดยศุลกากรหรือหน่วยงานราชการอื่นที่เกี่ยวข้องในประเทศปลายทางเนื่องจากเอกสารไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน และ/หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ผู้รับจะต้องรีบแจ้งข้อมูลหรือยื่นเอกสารที่ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ทันที ทั้งนี้ บริษัทอาจจะแจ้งให้ลูกค้าดำเนินการดังกล่าวด้วยก็ได้ หากผู้รับและ/หรือลูกค้าไม่แจ้งข้อมูลหรือยื่นเอกสารภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถือว่าเป็น “พัสดุหรือสินค้านำส่งไม่ได้” ซึ่งบริษัทไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น
8.6 ในบางกรณี บริษัทอาจใช้นายหน้าศุลกากรตามที่ลูกค้ากำหนดหรือบริษัทเห็นสมควรก็ได้ ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิดำเนินพิธีการทางศุลกากรเอง หากมีข้อเท็จจริงปรากฏว่า (1) บริษัทไม่สามารถระบุตัวตนของนายหน้าได้ (2) นายหน้าไม่ยอมดำเนินการพิธีการทางศุลกากร และ/หรือ (3) บริษัทไม่ได้รับข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับนายหน้าดังกล่าว
8.7 บริษัทขอสงวนสิทธิในการเรียกเก็บเงินค่าปรับ ค่าเสียหาย ต้นทุน ค่าธรรมเนียมการเก็บรักษา และ/หรือค่าใช้จ่ายอื่นใดจากลูกค้า อันเป็นผลมาจากการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานที่กำกับดูแลและ/หรือผลจากการที่ลูกค้าไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือเงื่อนไขที่ระบุไว้นี้
9. อัตราค่าบริการ
รายละเอียดปรากฏตามหน้าเว็บไซต์ของบริษัท www.shiparrive.com
10. การจัดเก็บค่าบริการ
10.1 กำหนดเวลาการชำระเงิน
10.1.1 บริการส่งออก : บริษัทจะเรียกเก็บค่าบริการจากลูกค้าในอัตราร้อยละ 100 (หนึ่งร้อย) ของค่าบริการ ก่อนที่จะลำเลียงสินค้าออกจากโกดังของบริษัทเพื่อขนส่งไปยังสถานที่ปลายทางซึ่งอยู่ต่างประเทศ
10.2 การชำระค่าบริการ
10.2.1 บริการส่งออก : ชำระเงินทันที นับแต่วันที่ลูกค้าได้รับใบแจ้งหนี้จากบริษัท
10.3 การเก็บเงินปลายทาง
บริษัทไม่มีการให้บริการเก็บเงินปลายทาง (COD : Cash on Delivery) สำหรับการขนส่งภายในประเทศ การนำเข้า และการส่งออกแต่อย่างใด ดังนั้น พัสดุหรือสินค้าใดที่มีการทำเครื่องหมาย COD จะถูกส่งกลับคืนลูกค้าทันที โดยลูกค้าจะต้องรับผิดชอบชำระเงินค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นเอง
10.4 ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ลูกค้าตกลงจะฝ่ายรับผิดชอบชำระเงินบรรดาค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพัสดุหรือสินค้าและการขนส่งพัสดุหรือสินค้าเองทั้งสิ้น อาทิ ไม่จำกัดอยู่เพียง ค่าธรรมเนียมและภาษีอากร ค่าขนส่ง ค่าประเมินภาษีศุลกากร ค่าปรับ ค่าเช่าสถานที่ ค่าเก็บรักษา ค่าทำลาย ค่าทนายความ ค่าดำเนินการทางกฎหมาย เป็นต้น รวมตลอดถึงกรณีที่ผู้รับพัสดุหรือสินค้าปฏิเสธที่จะชำระค่าใช้จ่ายดังกล่าวด้วย
11. การยื่นข้อเรียกร้อง
11.1 หนังสือแจ้งข้อเรียกร้อง
11.1.1 ในกรณีที่ลูกค้ามีความประสงค์จะยื่นข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการจัดส่งพัสดุหรือสินค้า ให้ลูกค้าจัดทำเป็นหนังสือแจ้งข้อเรียกร้อง ซึ่งประกอบด้วยรายละเอียดอย่างน้อยดังต่อไปนี้ พร้อมเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
(1) แบบฟอร์มการใช้บริการ (BOOKING FORM)
(2) แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าเสียหาย (CLAIM FORM)
(3) ใบกำกับสินค้า/ใบแสดงรายละเอียดการบรรจุสินค้า (INVOICE PACKING)
(4) รายละเอียดเกี่ยวกับความเสียหาย การสูญหาย และ/หรือความล่าช้า (แล้วแต่กรณี)
(5) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางของลูกค้า
(6) หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
(7) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (ถ้ามี)
(8) รายละเอียดบัญชีธนาคาร
11.1.2 วิธีการนำส่งหนังสือแจ้งข้อเรียกร้องให้กับบริษัท มีดังนี้
(1) ทางไปรษณีย์ : บริษัท ซีพีแอล อินเตอร์-โลจิสติกส์ จำกัด
168/44 ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10240
168/44 ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10240
(2) ทางเว็บไซต์ : www.shiparrive.com
(3) ทางอีเมล์ : [email protected]
11.1.3 สำหรับการจัดส่งพัสดุหรือสินค้าแต่ละครั้ง ลูกค้าสามารถยื่นข้อเรียกร้องได้เพียงครั้งเดียวภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น
11.1.4 บริษัทขอสงวนสิทธิไม่รับข้อเรียกร้องใดจากเจ้าของพัสดุที่ฝากส่งพัสดุกับผู้รวบรวมพัสดุ เนื่องจากเจ้าของพัสดุดังกล่าวไม่ใช่ลูกค้าของบริษัท
11.2 ระยะเวลาการยื่นข้อเรียกร้อง
11.2.1 กรณีสูญหาย : ลูกค้าจะต้องยื่นข้อเรียกร้องกับบริษัทภายในกำหนดเวลา 3 วัน นับแต่วันที่รับทราบว่าพัสดุหรือสินค้าสูญหายไป พร้อมระบุรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี)
11.2.2 กรณีเสียหาย : ลูกค้าจะต้องยื่นข้อเรียกร้องกับบริษัทภายในกำหนดเวลา 3 วัน นับแต่วันที่ได้รับพัสดุหรือสินค้าเรียบร้อยแล้ว พร้อมระบุรายละเอียดและรูปภาพประกอบที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี)
11.2.3 หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังที่กล่าวข้างต้น จะถือว่าลูกค้าสละสิทธิที่จะยื่นข้อเรียกร้องและ/หรือร้องเรียนเรื่องใดๆ กับบริษัท
11.3 การระงับไปของข้อเรียกร้อง
ลูกค้ารับทราบและเข้าใจเป็นอย่างดีว่า ข้อเรียกร้องของลูกค้าจะถือว่าเป็นอันระงับสิ้นไปทันทีภายหลังจากที่ปรากฏข้อเท็จจริงอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
11.3.1 บริษัทสามารถพิสูจน์ได้ว่า ข้อเรียกร้องนั้นเกี่ยวข้องกับความผิดพลาดหรือความบกพร่องของลูกค้า ผู้ประกอบการรายอื่น ตัวแทนขนส่ง และ/หรือปัจจัยอื่นที่อยู่นอกเหนืออำนาจการควบคุมของบริษัท โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทแต่อย่างใด
11.3.2 บริษัทและลูกค้าได้จัดทำบันทึกข้อตกลงและ/หรือเอกสารใดๆ เพื่อยุติข้อเรียกร้องร่วมกันแล้ว
11.3.3 ลูกค้าได้รับค่าบริการคืน เครดิตค่าขนส่ง และ/หรือค่าพัสดุหรือสินค้าจากบริษัทตามนโยบายการคืนเงินแล้ว
12. การรับประกัน
ลูกค้ารับทราบและเข้าใจเป็นอย่างดีว่า บริษัทตกลงจะรับประกันความล่าช้า การสูญหาย และ/หรือความเสียหายเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้กับริการจัดส่งสินค้าเท่านั้น โดยไม่ได้ให้การรับประกันและคำรับรองอื่นที่เกี่ยวข้องกับตัวพัสดุ สินค้า และ/หรือสิ่งที่บรรุจุอยู่ในพัสดุหรือสินค้าแต่ประการใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนก็ตาม
12.1 กรณีเสียหายหรือสูญหาย
12.1.1 วงเงินประกัน
(1) สำหรับพัสดุหรือสินค้าทั่วไป (มีมูลค่าน้อยกว่า USD 100) :
กรณีที่พัสดุหรือสินค้าทั่วไปได้รับความเสียหายหรือสูญหาย โดยเกิดมาจากความผิดพลาดของบริษัท บริษัทตกลงรับประกันตามความเสียหายที่เกิดขึ้นตามจริงให้กับลูกค้าภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน USD 100 (หนึ่งร้อยเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ) เท่านั้น
(2) สำหรับพัสดุหรือสินค้าที่มีมูลค่าสูง (มีมูลค่าตั้งแต่ USD 100 ขึ้นไป) :
(1) กรณีการส่งออก ไม่รวมการชำระค่าภาษีอากรปลายทาง บริษัทตกลงรับประกันความเสียหายที่เกิดขึ้นตามจริงให้กับลูกค้า แต่ไม่เกินร้อยละ 2 (สอง) ของมูลค่าสินค้าและค่าบริการ
12.1.2 กรณีที่ลูกค้าและ/หรือบริษัทสามารถพิสูจน์ได้ว่า
(1) พัสดุหรือสินค้าได้รับความเสียหายหรือสูญหายในขณะที่อยู่ในความดูแลของบริษัท บริษัทตกลงจะรับผิดชอบจ่ายเงินค่าเสียหายตามที่เกิดขึ้นจริงให้กับลูกค้าภายในวงเงินประกันที่กำหนดไว้
(2) พัสดุหรือสินค้าได้รับความเสียหายหรือสูญหายในขณะที่อยู่ในความดูแลของผู้ประกอบการรายอื่น ตัวแทนขนส่ง และ/หรือปัจจัยอื่นที่อยู่นอกเหนืออำนาจการควบคุมของบริษัท บริษัทไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายใดที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
12.2 การปฏิเสธรับประกัน
บริษัทจะไม่รับประกันความเสียหายหรือสูญหาย ในกรณีดังต่อไปนี้
12.2.1 พัสดุหรือสินค้าเป็นสิ่งของที่ไม่รับจัดส่ง
12.2.2 กรณีที่ลูกค้าไม่ชำระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรักษาพัสดุหรือสินค้า
13. นโยบายการคืนเงิน
13.1 กรณีการคืนเงิน
บริษัทตกลงจะคืนเงินค่าบริการที่ได้ชำระไว้แล้วคืนให้กับลูกค้าในกรณีดังต่อไปนี้เท่านั้น
13.1.1 กรณีที่ลูกค้าขอยกเลิกการใช้บริการก่อนสินค้าถูกส่งออกจากโกดังของบริษัท นับแต่วันที่ชำระเงินงวดแรก และได้ส่งมอบพัสดุหรือสินค้าไว้กับบริษัทแล้ว โดยไม่ใช่ความผิดของบริษัท
13.1.2 กรณีที่บริษัทไม่สามารถดำเนินการจัดส่งสินค้าได้ตามที่ตกลง
บริษัทขอสงวนสิทธิไม่คืนเงินค่าบริการหรือเครดิตค่าขนส่งให้กับลูกค้าในกรณีอื่นนอกเหนือจากที่ระบุไว้ ข้างต้นแต่ประการใด ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน ไม่ว่าจด้วยเหตุผลกรณีใดก็ตาม
13.2 วิธีการคืนเงิน
[บริษัท] สามารถเลือกวิธีการคืนเงินอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ดังต่อไปนี้
13.2.1 คืนเงินค่าบริการตามจำนวนที่ได้ชำระแล้วหรือตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ โดยวิธีการโอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารของลูกค้า
13.2.2 เครดิตค่าขนส่งเข้าบัญชีของลูกค้า ตามจำนวนค่าบริการที่ลูกค้าชำระแล้วหรือตามจำนวนที่ตกลงกันไว้
13.2.3 ชำระค่าพัสดุหรือสินค้าให้กับลูกค้าตามจำนวนที่ตกลงกันไว้
14. เหตุสุดวิสัย
14.1 “เหตุสุดวิสัย” หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยฉับพลันโดยไม่มีบุคคลใดสามารถคาดหมายหรือคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ไม่อาจป้องกันหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นไปได้แม้ว่าตนเองจะได้ใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม และ/หรืออยู่นอกเหนืออำนาจการควบคุมของบริษัท ไม่ว่าจะเกิดจากเหตุตามธรรมชาติหรือเหตุจากการกระทำของมนุษย์ก็ตาม อาทิ อุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย แผ่นดินไหว การจลาจล การชุมนุม โรคระบาด เป็นต้น
14.2 ลูกค้ารับทราบและเข้าใจเป็นอย่างดีว่า กรณีเกิดเหตุสุดวิสัย บริษัทไม่ต้องรับผิดชอบในความล่าช้า ความสูญหาย และ/หรือความเสียหายใดที่เกิดขึ้นใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วนก็ตาม
14.3 ภายหลังจากที่เหตุสุดวิสัยเป็นอันสิ้นสุดลง และบริษัทรวมตลอดถึงผู้ประกอบการรายอื่น ตัวแทนขนส่ง ศุลกากร หน่วยงานที่กำกับดูแล และ/หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถกลับมาประกอบกิจการงานได้ตามปกติแล้ว บริษัทจะใช้ความพยายามในการจัดส่งพัสดุหรือสินค้าของลูกค้าไปยังสถานที่ปลายทางโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
15. กฎหมายที่บังคับใช้
ข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้อยู่ภายใต้บังคับและการตีความตามบทบัญญัติของกฎหมายไทยและอยู่ภายในเขตอำนาจของศาลไทย
16. สถานที่ทำการ
ลูกค้าสามารถขอรับบริการได้ ณ สถานที่ทำการขอบริษัท ดังต่อไปนี้ WWW.SHIPARRIVE.COM